วันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ลูกค้าออนไลน์...

ลูกค้าที่ซื้อสินค้าออนไลน์ ไม่ชอบอะไร?

-ไม่ชอบสินค้าไม่มีคุณภาพ ไม่ตรงกับรูป
-ไม่ชอบสินค้าราคาแพงกว่าความเป็นจริง
-ไม่ชอบผู้ขายที่ส่งสินค้าช้า
-ไม่ชอบผู้ขายที่โกหก ไม่จริงใจ
.
.
.
.
.
แม่ค้าที่ขายสินค้าออนไลน์ ไม่ชอบอะไร ?
-ไม่ชอบลูกค้าที่ถามมาก แต่ไม่ซื้อ
-ไม่ชอบลูกค้าที่โอนเงินช้า
-ไม่ชอบลูกค้าที่ส่งข้อมูลที่อยู่เป็นรูปภาพ
.(คือต้องมานั่งเขียนคัดลอก แล้วพิมพ์อีกครั้ง)
.
.
.
นักเขียนฟรีแลนซ์ ไม่ชอบอะไร
-ไม่ชอบที่ไม่มีงาน
-ไม่ชอบอยู่เฉยๆ
-ไม่ชอบที่ผู้จ้างโอนเงินช้า
-และไม่ชอบที่งานเยอะมาพร้อมๆกัน!!! ทำไม่ทันจ้า!! (ฮา)
.

วันศุกร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ตอนที่ 1 อะไรที่เราหลงลืมไป

พิมพ์นารา หญิงสาวอายุ 24 ปี แต่งตัวสุภาพเรียบร้อย ออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อไปทำงาน  เธอทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ เมืองที่เค้าบอกว่าเป็นเมืองหลวง เป็นศูนย์กลางของธุรกิจของประเทศไทย 

ที่ทำงานของเธออยู่ใจกลางเมืองที่พลุกพล่านไปด้วยพนักงานบริษัท เธอชอบเดินทางโดยรถไฟฟ้า เพราะว่ามันสะดวกรวดเร็วดี

วันนี้ในรถไฟฟ้าคนยังไม่เยอะ ไม่เบียดเสียดยัดเยียดกันมาก อาจจะเป็นเพราะว่าเธอออกจากบ้านเช้ากว่าปกติ เพราะว่าเธอมีงานเร่งด่วนที่ต้องสะสางให้เรียบร้อย  

เมื่อเธอนั่งลง เธอกวาดตาไปมองรอบๆ บางคนก็นั่งหลับ บางคนนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ บางคนเอามือถือขึ้นมาเล่น บางคนฟังเพลง บางคนมองจอทีวีบนรถไฟฟ้า 

เธอนั่งเงียบๆแล้วฟังชื่อสถานีที่ผ่านไปเรื่อยๆ 

"สถานีต่อไป สถานีอโศก"
"Next station Asok"

เธอนั่งคิดอะไรไปเพลินๆ มารู้สึกตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงประกาศ
"Next station Ekamai"

เธอเอ๊ะใจขึ้นมานิดหนึ่ง 
"อ้าว...ถึงเอกมัยแล้วหรอเนี่ย ทำไมเราไม่ได้ยินเค้าประกาศสถานี พร้อมพงษ์ สถานีทองหล่อ เลยล่ะ"


แล้วเธอก็คิดอะไรไปเพลินๆอีก มารู้สึกตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงประกาศ
"สถานีต่อไป สถานีอุดมสุข"
"Next station Udomsuk"

เธอรู้สึกตัว และเตรียมตัวลงจากรถไฟฟ้าด้วยความแปลกใจ คิดในใจว่า 
"ทำไมถึงเร็วจัง"
"ถึงสถานีที่จะลงแล้ว"
"แต่ว่าไม่เห็นได้ยินชื่อสถานีที่ผ่านไปเลย ตั้งแต่ พระโขนง อ่อนนุช บางจาก ปุณณวิถี"
"มันผ่านหูเราไปได้ยังไง"
"หรือว่าตอนที่เราคิดอะไรเพลินๆ เราไม่ได้ฟัง?"

พิมพ์นาราก้าวเดินออกจากรถไฟฟ้า และเดินไปถึงที่ทำงานอย่างรวดเร็ว เธอเริ่มต้นทำงานอย่างตั้งใจและทำงานเสร็จตามที่ตั้งใจไว้





วันเสาร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

นิทาน : กระรอกน้อยอยากรู้

กระรอกน้อยอยากรู้

ณ สวนสาธารณะแห่งหนึ่งในใจกลางเมือง  ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ ผู้คนเดินและวิ่งขวักไขว่ไปมา มันช่างน่าเวียนหัวสำหรับเจ้ากระรอกน้อยตัวเล็กจิ๋ว ที่เกาะอยู่บนต้นไม้ใหญ่ และกำลังตาโตพร้อมกับเกิดความสงสัยมากมาย
กระรอกน้อยกระโดดจากต้นไม้ต้นหนึ่งไปอีกต้นหนึ่ง เพื่อไปหาแม่ของมัน

“แม่จ๋า ทำไมวันนี้คนมากมายเหลือเกิน” กระรอกน้อยถามแม่

“ผู้คนมาออกกำลังกายในวันหยุดกันไงลูก” แม่กระรอกตอบคำถาม

“แล้วทำไมเมื่อวานคนถึงไม่เยอะขนาดนี้คะ”

“เมื่อวานเป็นวันธรรมดา ผู้คนย่อมต้องไปทำงาน ไม่ว่างมาออกกำลังกายกันตอนเช้าแบบนี้จ้า”

แม่รู้ว่าหนูกำลังสงสัยและจะถามว่า วันธรรมดาคืออะไรใช่ไหมจ๊ะ แม่กระรอกพูดต่อโดยไม่รอให้ลูกถาม

“วันธรรมดา มี 5 วัน ก็คือ วันจันทร์, อังคาร,  พุธ,  พฤหัสบดี,  ศุกร์”

“ส่วนวันหยุด มี 2 วัน ก็คือ วันเสาร์ อาทิตย์ ไงคะ”


กระรอกน้อยคิดในใจ “อ๋อ วันนี้เค้าเรียกว่าวันหยุดนี่เอง”

"หนูไม่ชอบวันหยุดเลย คนเยอะ ดูวุ่นวายจัง" กระรอกน้อยแอบบ่นกับแม่

"หนูไม่ชอบ แต่คนที่ทำงานเค้าชอบกันนะจ๊ะ เพราะว่าเค้าต้องทำงานอย่างหนักมาตลอด 5 วัน ดังนั้นพอถึงวันเสาร์-อาทิตย์ เค้าก็ย่อมอยากจะพักผ่อน วิธีพักผ่อนก็มีอยู่หลายอย่าง หนึ่งในนั้นก็คือ การมาออกกำลังกายที่สวนสาธารณะยังไงล่ะจ๊ะ" แม่กระรอกอธิบายยาว

"อ๋อ แบบนี้นี่เอง เข้าใจแล้วค่ะแม่" 
"บางทีเราไม่ชอบ แต่ผู้อื่นชอบ แต่ละคนชอบไม่เหมือนกันนี่เอง"

กระรอกน้อยกล่าวขอบคุณแม่ และปีนขึ้นต้นไม้สูงขึ้นไป

วันอังคารที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

Emily Gravett นักเขียนนิทาน นักใช้ชีวิต

หนึ่งในสิ่งที่เล็กต้องทำทุกเช้า คือ "การรีวิวนิทานภาษาอังกฤษ" เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้อ่าน ตัดสินใจเลือกซื้อหนังสือ 
การรีวิวหนังสือนิทานแต่ละครั้ง เราก็ต้อง "อ่าน" ทั้งเนื้อหานิทาน "อ่าน" ทั้งประวัติผู้เขียน ว่ามีประเด็นอะไรให้สามารถหยิบยก เอามาประกอบการเขียนได้บ้าง

วันนี้มาสะดุดกับประวัติของเธอคนนี้ Emily Gravett ซึ่งอาจจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนลุกขึ้นสู้ได้


พ่อกับแม่ของ Emily แยกทางกัน เธออาศัยอยู่กับแม่ที่เป็นครูสอนศิลปะ ซึมซับและรักการวาดรูปเป็นชีวิตจิตใจ 

เมื่อเธออายุ 16 ปี เธอก็ลาออกจากโรงเรียน ได้เพียงแค่ประกาศนียบัตรมา 1 ใบเท่านั้น หลังจากนั้นเธอใช้เวลาถึง 8 ปี ในการท่องเที่ยวไปทั่วอังกฤษโดยไม่ได้ทำอะไร

เมื่อเธอพบชายหนุ่มคนหนึ่งและมีลูกด้วยกัน เธอเริ่มตระหนักว่าต้องหางานทำ เธอจึงกลับไปเข้าเรียนเพิ่มเติมด้านการวาดรูป 

ระหว่างที่เรียนปี 2 เธอส่งผลงานการวาดรูปเข้าประกวด ปรากฎว่าได้รับรางวัลชนะเลิศ และผลงานนั้นก็ได้รับการตีพิมพ์เป็นหนังสือนิทานออกขาย ชื่อเรื่อง Wolves

หลังจากเธอจบการศึกษา นิทานเรื่องนี้ก็ได้รับรางวัลอีกเป็นครั้งที่ 2 และขายไป 5 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเธอไม่หยุดนิ่ง เธอสร้างผลงานนิทานดีๆขึ้นมาเรื่อยๆ และได้รับรางวัลอย่างต่อเนื่อง ได้ทำงานร่วมกับนักเขียนนิทานชื่อดังอย่าง Julia Donaldson 

จะเห็นว่า เธอประสบความสำเร็จ ไม่ใช่เพราะโชคช่วย แต่เพราะว่าเธอลงมือทำ จนเมื่อถึงจุดหนึ่ง โอกาสก็มาหาเธอ สู้กันต่อไปนะคะ


วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ต้นเหลืองปรีดิยาธร ชื่อนี้ได้มาอย่างไร?

ทุกครั้งที่พาลูกไปเที่ยวต่างจังหวัดช่วงปิดเทอม ระหว่างทางบนมอเตอร์เวย์ จะได้เห็นดอกไม้สีเหลืองๆ 2 ข้างทาง ชูช่อ ชูดอก ให้ได้สดชื่น สบายตากันตลอดทาง

มักจะถามลูกว่า นั่นดอกอะไร พอเค้าบอกว่าไม่รู้ ก็จะเฉลยว่า เค้าเรียกว่า "ดอกเหลืองปรีดิยาธร" ถามตอบกันไปๆ มาๆ อยู่หลายครั้ง ลูกก็จำชื่อดอกไม้ไม่ได้ซักที อาจจะเพราะว่าชื่อมันยาว

วันนี้เลยสงสัย อยากหาคำตอบ ว่าชื่อนี้ได้แต่ใดมา?? ก็คิดอยู่ว่ามันคุ้นๆ
..อ๋อ..เพราะอย่างนี้นี่เอง...

เรื่องเกิดขึ้นประมาณ 30 ปีก่อน จาก คุณวิชัย อภัยสุวรรณ เจ้าของคอลัมน์หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ได้นำต้นไม้พันธุ์ ตาเบบูย่า เข้ามาจากประเทศเม็กซิโก และต้องการนำไปจดทะเบียนกับกรมป่าไม้เป็นชื่อภาษาไทย ก็เลยขอยืมชื่อของ หม่อมราชวงศ์ปรีดิยธร เทวกุล มาใช้จดทะเบียน

คราวนี้ก็หายสงสัยแล้ว ต่อไปนี้ จะได้อธิบายให้ลูกฟังได้ถูก ได้ความรู้เรื่องต้นไม้ และ ได้ความรู้เรื่องตัวบุคคลไปด้วยเลยค่ะ