วันพฤหัสบดีที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2560

บทเรียนจากอากาศหนาว

คุณได้รับบทเรียนอะไรจากอากาศหนาว 4-5 วัน ใน กทม.บ้าง??

1.เรารักแสงแดดขึ้นมาจับใจ ตรงไหนมีแสงแดด เราขอพบเป็นการด่วน

2.เราเกลียดสายลมขึ้นมาจับใจ ตรงไหนลมพัดผ่าน เราบ่นเป็นการใหญ่

3.เราได้รู้ว่า อะไรก็ไม่แน่นอน ร้อนมากได้ ก็หนาวมากได้

4.การนั่งมอเตอร์ไซด์ช่วงนั้น เป็นการทรมารผิวหน้าที่บอบบางของเราเหลือเกิน

5.เราเลิกเดินห้างชั่วขณะ หนาวจะแย่ อยู่บ้านดีกว่า ประหยัดเงินด้วย

6.เราได้รู้ว่าการอาบน้ำในหน้าหนาวเป็นความท้าทายระดับสูง (กรณีไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น)

7.เราได้ใช้สมองส่วนความจำในการค้นหาเสื้อกันหนาว
ที่เก็บไว้ส่วนลึกที่สุดในบ้าน นั่งนึกแล้วนึกอีก เอาเก็บไว้ตรงไหนหว่า....
อ๋อ เจอแล้ว...เอาออกมาใส่ 3 วัน อ้าว....ร้อนแล้ว..เก็บเข้าไปเหมือนเดิม

8.บางครั้งสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ในกทม. (เสื้อกันหนาว) ก็เกิดมีประโยชน์ขึ้นมาได้เหมือนกัน

9.ลมหนาวทำให้การกอดกับคนที่เรารัก มีความอบอุ่นขึ้นมาทันที (หมายถึงลูกน่ะ อิอิ)







วันอังคารที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2560

นิทาน : แสงแดดผู้น่าสงสาร

นิทานเรื่อง "แสงแดดผู้น่าสงสาร"

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ดช.แสงแดด อาศัยอยู่กับพระอาทิตย์ ช่วยงานพระอาทิตย์อย่างขยันขันแข็งทุกวัน ตอนเช้าเมื่อพระอาทิตย์เริ่มทำงาน ดช.แสงแดดก็จะตามไปด้วย ช่วยงานไม่ได้หยุด ดช.แสงแดดจะแผ่ความร้อนไปทั่วบริเวณ ทั้งๆที่ทำประโยชน์ให้มากมาย แต่ไม่ค่อยมีคนชอบ ดช.แสงแดดนัก
.
.
บ้างก็บ่นว่า เกลียด ดช.แสงแดด เพราะทำให้ร้อนเหลือเกิน 
บ้างก็บ่นว่า ไปไกลๆเลย ดช.แสงแดด ไม่ต้องมาแถวนี้
.
.
เกือบทุกคน ไม่ชอบ ดช.แสงแดด คอยหลบหน้า หนีหาย ไม่ยอมพูดคุยกับเค้า จะมีเพียง ดญ.ทานตะวันเท่านั้น ที่รักและชอบเล่นกับ ดช.แสงแดด
.
.
“นี่แสงแดด วันนี้เธอแผ่ความร้อน แผ่แดด มาเยอะๆนะ ฉันชอบ ฉันจะได้เจริญเติบโตเร็วๆ" ดญ.ทานตะวันกล่าว
.
.
“ได้ซิ ฉันทำงานทุกวันคู่กับพระอาทิตย์อยู่แล้ว มา...รอรับนะ” ดช. แสงแดดรีบตอบ
.
.
ดช.แสงแดดรู้สึกดีใจ ที่ยังมีเพื่อน ยังมีคนที่รักและเข้าใจในตัวเค้า แต่แล้ววันหนึ่ง เมื่อดญ.ทานตะวันเติบโตเต็มที่ ก็เริ่มเหี่ยวเฉา โรยลาไป ดช.แสงแดด รู้สึกเศร้าใจเป็นอันมาก เพราะไม่มีเพื่อนคุยด้วยเลย

**************************
จนเมื่อลมหนาวพัดผ่านมา หอบเอาความเหน็บหนาวเข้ามาในเมือง ผู้คนเริ่มสวมใส่เสื้อผ้าหนาๆ กระชับเสื้อมั่น เวลาลมพัดผ่าน พวกเค้าเริ่มเดินออกมาจากบ้าน เพื่อมาทักทาย ดช.แสงแดด
.
.
“สวัสดีแสงแดด สบายดีไหม แผ่ความร้อนลงมาเยอะๆนะ ฉันชอบ”
“สวัสดีแสงแดด ฉันชอบเธอ ทำงานดีๆนะ ฉันรอความร้อนของเธออยู่”
“สวัสดีแสงแดด ลงมาเล่นกับฉันบ่อยๆ นะ ฉันรอเธออยู่”
.
.
ดช.แสงแดด แปลกใจมาก ที่อยู่ๆ ผู้คนก็ให้การต้อนรับเค้าเป็นอย่างดี พูดคุยกับเค้า แสดงออกว่าชอบเค้า อยากอยู่ด้วยใกล้ๆ แม้ว่าจะแปลกใจ แต่ดช.แสงแดดก็ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่เหมือนเดิม เค้าแผ่แสงแดด แผ่ความร้อนไปทั่วบริเวณ เหมือนเดิมที่เค้าเคยทำมา
.
.
“ใจคนนี่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วตามไม่ทันจริงๆ” 
ดช.แสงแดดคิดในใจ

วันศุกร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2560

คนขี้อิจฉา

คนเรามักจะคิดอิจฉาคนอื่น












-รู้สึกว่าเค้ามีสิ่งที่เราไม่มี
-รู้สึกว่าเค้าดีกว่าเรา
-รู้สึกว่าเค้าเก่งกว่าเรา
-รู้สึกว่าเค้าโชคดีกว่าเรา
-รู้สึกว่าเค้าหาเงินเก่งกว่าเรา
.
.
ลองหันมามองตัวเอง เรียนรู้ตัวเอง
-ดูว่าเรามีข้อดีตรงไหน
-ดูว่าเราชอบทำอะไร
-ดูว่าเราทำถนัดทำอะไร
-ดูว่าเราเป็นคนอย่างไร
.
.
แล้วจะรู้ว่า การดูตัวเอง
มีความสุขกว่ากันเยอะ
.
.
และไม่แน่ว่า บางที...
อาจจะมีคนแอบอิจฉาเราอยู่ก็เป็นได้...
.

วันศุกร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2560

เช้าวันศุกร์

ตอนที่ทำงานประจำ
ทุกเช้าวันศุกร์ จะรู้สึกว่า
เป็นวันที่มีความสุขมากกว่าวันอื่น
(แม้ว่าวันเสาร์จะทำครึ่งวันก็ตามเถอะ)


















พอมาทำงานส่วนตัว
ก็รู้สึกอีกแบบ คือ ไม่ว่าวันไหน
ก็ต้องทำงาน ทำงาน และทำงาน
.
.
แต่ในบางความรู้สึกก็ยังชอบวันศุกร์
เพราะว่าวันถัดไปจะเป็นวันเสาร์
วันที่ลูกสาวหยุดเรียน
.
.
วันที่ต้องหากิจกรรมให้ลูกทำ
วันที่อาจจะต้องพาลูกออกนอกบ้าน
วันที่อาจจะไม่ต้องทำงานหน้าคอมพิวเตอร์!!
.
.
แล้วคุณล่ะ ชอบวันไหนที่สุด??
คงไม่มีใครตอบว่าชอบวันจันทร์นะคะ
☺️☺️☺️☺️☺️

วันศุกร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ตอนที่ 2 : ตาเรา

ตอนที่ 2 "ตาเรา"

พิมพ์นารา ปิดลิ้นชัก เดินออกจากออฟฟิศเป็นคนแรกๆของเย็นวันหนึ่ง วันนี้เธอทำงานเสร็จเร็วกว่าปกติ เพราะว่าเธอมาเคลียร์งานตั้งแต่เช้า เธอกล่าวลาเพื่อนๆ แล้วรีบเดินทางไปที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ซึ่งเธอนัดกับเพื่อนเก่าที่เป็นครูไว้

เธอมาถึงโรงเรียนเวลา 17.50 น. กำลังมองดูเด็กๆ อายุประมาณ 6-10 ปี ที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น เล่นกันอย่างสนุกสนาน ทั้งวิ่งไล่จับ, กระโดดเชือก, เตะบอล, ตีแบด, ขี่จักรยาน





ขณะที่ทุกคนกำลังสนุกเพลิดเพลินกับการเล่นกับเพื่อน เสียงนาฬิกาในโรงเรียนดัง เวลา 18.00น. เพลงชาติเริ่มต้นขึ้น....คุณลุงคนหนึ่งเชิญธงลงจากยอดเสา ทุกอย่างหยุดการเคลื่อนไหว ทุกคนยืนตรง ยกเว้น....


เด็กชายประถม รูปร่างอวบเล็กน้อย ยังคงขยับไปมา พร้อมกับลูกบอลที่เท้า ไม่รู้ ไม่ชี้ ขณะที่คนอื่นๆ หยุดนิ่ง และยังเตะไปเชื้อเชิญเพื่อนอีก 3 คนให้มาเล่นอีกด้วย



พิมพ์นาราคิดขึ้นมาทันทีว่า 

-เด็กคนนี้ทำไมทำแบบนี้ 
-น่าจะรู้ว่าต้องเคารพธงชาติ
-น่าจะยืนตรงก่อน เล่นทีหลัง


-ไม่รู้จักกาละเทศะเลย

ยิ่งคิด ก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิด และแอบ "ว่า" เด็กคนนี้ในใจอีกยาว

 

จนเพลงชาติจบลง พร้อมกับความคิดที่หายไป เธอได้ยินเสียงหนึ่งแว่วออกมาว่า "ใจตัวเองไม่ดู กลับไปดูคนอื่น"

เธอยิ้มออกมาอย่างอายๆ และพูดกับตัวเองว่า

"เออ....จริงด้วยนะ" 
"ไม่เห็นใจตัวเอง ที่ตำหนิคนอื่น"
"ไม่เห็นใจตัวเอง หงุดหงิดรำคาญใจ"
"ไปสนใจแต่คนอื่น"


พิมพ์นาราได้ยินเสียงเพื่อนร้องเรียก จึงหันแล้วเดินจากเด็กกลุ่มนี้ไป


************************

บ่อยครั้งที่ "ตา" มองออกไป
กระทบกับสิ่งที่มองเห็น
แปลค่าต่างๆ นาๆ

ใจให้ค่าอะไร กลับมองไม่เห็น
เพราะว่า ไม่มี "สติ" นั่นเอง

**********************



วันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ลูกค้าออนไลน์...

ลูกค้าที่ซื้อสินค้าออนไลน์ ไม่ชอบอะไร?

-ไม่ชอบสินค้าไม่มีคุณภาพ ไม่ตรงกับรูป
-ไม่ชอบสินค้าราคาแพงกว่าความเป็นจริง
-ไม่ชอบผู้ขายที่ส่งสินค้าช้า
-ไม่ชอบผู้ขายที่โกหก ไม่จริงใจ
.
.
.
.
.
แม่ค้าที่ขายสินค้าออนไลน์ ไม่ชอบอะไร ?
-ไม่ชอบลูกค้าที่ถามมาก แต่ไม่ซื้อ
-ไม่ชอบลูกค้าที่โอนเงินช้า
-ไม่ชอบลูกค้าที่ส่งข้อมูลที่อยู่เป็นรูปภาพ
.(คือต้องมานั่งเขียนคัดลอก แล้วพิมพ์อีกครั้ง)
.
.
.
นักเขียนฟรีแลนซ์ ไม่ชอบอะไร
-ไม่ชอบที่ไม่มีงาน
-ไม่ชอบอยู่เฉยๆ
-ไม่ชอบที่ผู้จ้างโอนเงินช้า
-และไม่ชอบที่งานเยอะมาพร้อมๆกัน!!! ทำไม่ทันจ้า!! (ฮา)
.

วันศุกร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ตอนที่ 1 อะไรที่เราหลงลืมไป

พิมพ์นารา หญิงสาวอายุ 24 ปี แต่งตัวสุภาพเรียบร้อย ออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อไปทำงาน  เธอทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ เมืองที่เค้าบอกว่าเป็นเมืองหลวง เป็นศูนย์กลางของธุรกิจของประเทศไทย 

ที่ทำงานของเธออยู่ใจกลางเมืองที่พลุกพล่านไปด้วยพนักงานบริษัท เธอชอบเดินทางโดยรถไฟฟ้า เพราะว่ามันสะดวกรวดเร็วดี

วันนี้ในรถไฟฟ้าคนยังไม่เยอะ ไม่เบียดเสียดยัดเยียดกันมาก อาจจะเป็นเพราะว่าเธอออกจากบ้านเช้ากว่าปกติ เพราะว่าเธอมีงานเร่งด่วนที่ต้องสะสางให้เรียบร้อย  

เมื่อเธอนั่งลง เธอกวาดตาไปมองรอบๆ บางคนก็นั่งหลับ บางคนนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ บางคนเอามือถือขึ้นมาเล่น บางคนฟังเพลง บางคนมองจอทีวีบนรถไฟฟ้า 

เธอนั่งเงียบๆแล้วฟังชื่อสถานีที่ผ่านไปเรื่อยๆ 

"สถานีต่อไป สถานีอโศก"
"Next station Asok"

เธอนั่งคิดอะไรไปเพลินๆ มารู้สึกตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงประกาศ
"Next station Ekamai"

เธอเอ๊ะใจขึ้นมานิดหนึ่ง 
"อ้าว...ถึงเอกมัยแล้วหรอเนี่ย ทำไมเราไม่ได้ยินเค้าประกาศสถานี พร้อมพงษ์ สถานีทองหล่อ เลยล่ะ"


แล้วเธอก็คิดอะไรไปเพลินๆอีก มารู้สึกตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงประกาศ
"สถานีต่อไป สถานีอุดมสุข"
"Next station Udomsuk"

เธอรู้สึกตัว และเตรียมตัวลงจากรถไฟฟ้าด้วยความแปลกใจ คิดในใจว่า 
"ทำไมถึงเร็วจัง"
"ถึงสถานีที่จะลงแล้ว"
"แต่ว่าไม่เห็นได้ยินชื่อสถานีที่ผ่านไปเลย ตั้งแต่ พระโขนง อ่อนนุช บางจาก ปุณณวิถี"
"มันผ่านหูเราไปได้ยังไง"
"หรือว่าตอนที่เราคิดอะไรเพลินๆ เราไม่ได้ฟัง?"

พิมพ์นาราก้าวเดินออกจากรถไฟฟ้า และเดินไปถึงที่ทำงานอย่างรวดเร็ว เธอเริ่มต้นทำงานอย่างตั้งใจและทำงานเสร็จตามที่ตั้งใจไว้





วันเสาร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

นิทาน : กระรอกน้อยอยากรู้

กระรอกน้อยอยากรู้

ณ สวนสาธารณะแห่งหนึ่งในใจกลางเมือง  ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ ผู้คนเดินและวิ่งขวักไขว่ไปมา มันช่างน่าเวียนหัวสำหรับเจ้ากระรอกน้อยตัวเล็กจิ๋ว ที่เกาะอยู่บนต้นไม้ใหญ่ และกำลังตาโตพร้อมกับเกิดความสงสัยมากมาย
กระรอกน้อยกระโดดจากต้นไม้ต้นหนึ่งไปอีกต้นหนึ่ง เพื่อไปหาแม่ของมัน

“แม่จ๋า ทำไมวันนี้คนมากมายเหลือเกิน” กระรอกน้อยถามแม่

“ผู้คนมาออกกำลังกายในวันหยุดกันไงลูก” แม่กระรอกตอบคำถาม

“แล้วทำไมเมื่อวานคนถึงไม่เยอะขนาดนี้คะ”

“เมื่อวานเป็นวันธรรมดา ผู้คนย่อมต้องไปทำงาน ไม่ว่างมาออกกำลังกายกันตอนเช้าแบบนี้จ้า”

แม่รู้ว่าหนูกำลังสงสัยและจะถามว่า วันธรรมดาคืออะไรใช่ไหมจ๊ะ แม่กระรอกพูดต่อโดยไม่รอให้ลูกถาม

“วันธรรมดา มี 5 วัน ก็คือ วันจันทร์, อังคาร,  พุธ,  พฤหัสบดี,  ศุกร์”

“ส่วนวันหยุด มี 2 วัน ก็คือ วันเสาร์ อาทิตย์ ไงคะ”


กระรอกน้อยคิดในใจ “อ๋อ วันนี้เค้าเรียกว่าวันหยุดนี่เอง”

"หนูไม่ชอบวันหยุดเลย คนเยอะ ดูวุ่นวายจัง" กระรอกน้อยแอบบ่นกับแม่

"หนูไม่ชอบ แต่คนที่ทำงานเค้าชอบกันนะจ๊ะ เพราะว่าเค้าต้องทำงานอย่างหนักมาตลอด 5 วัน ดังนั้นพอถึงวันเสาร์-อาทิตย์ เค้าก็ย่อมอยากจะพักผ่อน วิธีพักผ่อนก็มีอยู่หลายอย่าง หนึ่งในนั้นก็คือ การมาออกกำลังกายที่สวนสาธารณะยังไงล่ะจ๊ะ" แม่กระรอกอธิบายยาว

"อ๋อ แบบนี้นี่เอง เข้าใจแล้วค่ะแม่" 
"บางทีเราไม่ชอบ แต่ผู้อื่นชอบ แต่ละคนชอบไม่เหมือนกันนี่เอง"

กระรอกน้อยกล่าวขอบคุณแม่ และปีนขึ้นต้นไม้สูงขึ้นไป

วันอังคารที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

Emily Gravett นักเขียนนิทาน นักใช้ชีวิต

หนึ่งในสิ่งที่เล็กต้องทำทุกเช้า คือ "การรีวิวนิทานภาษาอังกฤษ" เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้อ่าน ตัดสินใจเลือกซื้อหนังสือ 
การรีวิวหนังสือนิทานแต่ละครั้ง เราก็ต้อง "อ่าน" ทั้งเนื้อหานิทาน "อ่าน" ทั้งประวัติผู้เขียน ว่ามีประเด็นอะไรให้สามารถหยิบยก เอามาประกอบการเขียนได้บ้าง

วันนี้มาสะดุดกับประวัติของเธอคนนี้ Emily Gravett ซึ่งอาจจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนลุกขึ้นสู้ได้


พ่อกับแม่ของ Emily แยกทางกัน เธออาศัยอยู่กับแม่ที่เป็นครูสอนศิลปะ ซึมซับและรักการวาดรูปเป็นชีวิตจิตใจ 

เมื่อเธออายุ 16 ปี เธอก็ลาออกจากโรงเรียน ได้เพียงแค่ประกาศนียบัตรมา 1 ใบเท่านั้น หลังจากนั้นเธอใช้เวลาถึง 8 ปี ในการท่องเที่ยวไปทั่วอังกฤษโดยไม่ได้ทำอะไร

เมื่อเธอพบชายหนุ่มคนหนึ่งและมีลูกด้วยกัน เธอเริ่มตระหนักว่าต้องหางานทำ เธอจึงกลับไปเข้าเรียนเพิ่มเติมด้านการวาดรูป 

ระหว่างที่เรียนปี 2 เธอส่งผลงานการวาดรูปเข้าประกวด ปรากฎว่าได้รับรางวัลชนะเลิศ และผลงานนั้นก็ได้รับการตีพิมพ์เป็นหนังสือนิทานออกขาย ชื่อเรื่อง Wolves

หลังจากเธอจบการศึกษา นิทานเรื่องนี้ก็ได้รับรางวัลอีกเป็นครั้งที่ 2 และขายไป 5 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเธอไม่หยุดนิ่ง เธอสร้างผลงานนิทานดีๆขึ้นมาเรื่อยๆ และได้รับรางวัลอย่างต่อเนื่อง ได้ทำงานร่วมกับนักเขียนนิทานชื่อดังอย่าง Julia Donaldson 

จะเห็นว่า เธอประสบความสำเร็จ ไม่ใช่เพราะโชคช่วย แต่เพราะว่าเธอลงมือทำ จนเมื่อถึงจุดหนึ่ง โอกาสก็มาหาเธอ สู้กันต่อไปนะคะ


วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ต้นเหลืองปรีดิยาธร ชื่อนี้ได้มาอย่างไร?

ทุกครั้งที่พาลูกไปเที่ยวต่างจังหวัดช่วงปิดเทอม ระหว่างทางบนมอเตอร์เวย์ จะได้เห็นดอกไม้สีเหลืองๆ 2 ข้างทาง ชูช่อ ชูดอก ให้ได้สดชื่น สบายตากันตลอดทาง

มักจะถามลูกว่า นั่นดอกอะไร พอเค้าบอกว่าไม่รู้ ก็จะเฉลยว่า เค้าเรียกว่า "ดอกเหลืองปรีดิยาธร" ถามตอบกันไปๆ มาๆ อยู่หลายครั้ง ลูกก็จำชื่อดอกไม้ไม่ได้ซักที อาจจะเพราะว่าชื่อมันยาว

วันนี้เลยสงสัย อยากหาคำตอบ ว่าชื่อนี้ได้แต่ใดมา?? ก็คิดอยู่ว่ามันคุ้นๆ
..อ๋อ..เพราะอย่างนี้นี่เอง...

เรื่องเกิดขึ้นประมาณ 30 ปีก่อน จาก คุณวิชัย อภัยสุวรรณ เจ้าของคอลัมน์หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ได้นำต้นไม้พันธุ์ ตาเบบูย่า เข้ามาจากประเทศเม็กซิโก และต้องการนำไปจดทะเบียนกับกรมป่าไม้เป็นชื่อภาษาไทย ก็เลยขอยืมชื่อของ หม่อมราชวงศ์ปรีดิยธร เทวกุล มาใช้จดทะเบียน

คราวนี้ก็หายสงสัยแล้ว ต่อไปนี้ จะได้อธิบายให้ลูกฟังได้ถูก ได้ความรู้เรื่องต้นไม้ และ ได้ความรู้เรื่องตัวบุคคลไปด้วยเลยค่ะ

วันอังคารที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ออกทุกข์

เมื่อวานนี้ 30 ตุลาคม 2560 เป็นวันแรกที่คนไทยออกทุกข์ สิ่งที่เกิดกับตัวเองคือ ตอนเช้าแต่งตัว เกิดความงง ว่าจะหยิบเอาเสื้อตัวไหนมาใส่ดี เลือกอยู่นาน เลือกไม่ถูก คิดแล้วคิดอีก ตัดสินใจไม่ได้ ก็เลยหยิบเอาสีดำมาใส่เหมือนเดิม

เนื่องจาก 1 ปีที่ผ่านมา เราหยิบชุดสีดำมาใส่ทุกวัน การทำซ้ำทุกวันๆ ทำให้เกิดความเคยชิน ไม่ต้องคิดอะไรมาก ไม่ต้องเลือกมาก ทำเหมือนเดิมทุกวัน

เรื่องนี้ พอจะทำให้เราเห็นภาพอะไรได้ชัดขึ้นแล้วนะคะ ถ้าคุณตั้งใจจะทำอะไรซักอย่างหนึ่งที่ดี มีประโยชน์ ให้ลองตั้งใจอย่างแน่วแน่ ทำให้จริงจังทุกวัน ทำซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ คุณจะพบว่า เรื่องที่ดูเหมือนยากในตอนแรกนั้น ที่จริงไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลย และมันจะกลายเป็นวินัยที่ดีต่อไปในอนาคต

เรื่องอะไรบ้างล่ะที่คุณอยากทำ

-ตั้งใจเลิกสูบบุหรี่
-ตั้งใจเลิกกินเหล้า
-ตั้งใจลดน้ำหนัก
-ตั้งใจออกกำลังกาย
-ตั้งใจกินเจ มังสวิรัต
-ตั้งใจสวดมนต์ ทำสมาธิิ

ลองตั้งเป้าหมายของคุณดูนะคะ

วันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2560

เริ่มต้นเขียน

บล็อกนี้เกิดขึ้นเดือนวันที่ 28 ตุลาคม 2560 หลังจากที่ทุกอย่างลงตัว อะไรที่เรียกว่าลงตัว ??

1.ร้านหนังสือนิทานภาษาอังกฤษมือสองเริ่มไปได้ดี
ฟาร์มฝันบุ๊ค www.facebook.com/farmfunbook ตั้งอยู่ ซ.รัชดาภิเษก 13 ใกล้ MRT ห้วยขวาง กิจการที่เริ่มต้นจาก 0 ผ่าฟันอุปสรรคต่างๆ มา 4-5 ปี เริ่มเข้าที่เข้าทางแล้วในเฟสบุ๊ค คือมีลูกค้าประจำ ลูกค้าใหม่ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาซื้อหนังสือนิทานภาษาอังกฤษมือสองให้กับลูก อยู่เสมอ

2.ลูกโตแล้ว (จะทำอะไรก็ได้...อิอิ)
ลูกสาวที่เราเริ่มสอนพูดภาษาอังกฤษกันเองที่บ้าน ตามแนวทาง "เด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้" ตั้งแต่ 2.5 ปี สามารถประคองการใช้ภาษาอังกฤษแบบธรรมชาติได้เองระดับหนึ่ง และตอนนี้ก็กำลังจะสอบเข้า มัธยมศึกษาปีที่ 1

ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะได้ลองทำงานที่คิดว่าตัวเองถนัด และอยากทำดูบ้าง นั่นคือ "งานเขียน"

จำได้ว่า ตั้งแต่เด็กเป็นคนชอบเขียนไดอารี่ ชอบบันทึก เมื่อมีลูกก็ห่างๆ ออกไป พอเริ่มทำร้านหนังสือก็ใช้ทักษะที่มีมา บวกกับความเป็นคนชอบอ่านนิทานอยู่แล้ว ก็เลยทำรีวิวหนังสือนิทานที่ร้าน  ให้ลูกค้าอ่านและตัดสินใจซื้ออย่างมั่นใจ

ทำให้ทักษะการเขียน การสรุปความ มองมุม ประเด็นที่ผู้เขียนต้องการสื่อ เรามองได้อย่างแม่นยำ ไม่ค่อยคาดเคลื่อน

ลองติดตามบทความดีๆ ที่เขียนออกมาจากใจกันดูนะคะ