วันพุธที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ตอนที่ 3 : หูของเรา

วันนี้เป็นวันเสาร์ พิมพ์นาราออกจากบ้านแต่เช้า เพื่อไปออกกำลังกายที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง อากาศเย็นมาก ลมพัดแรงจนเธอขนลุก เธอวิ่งเหยาะๆ เพื่อวอร์มร่างกาย

ขณะที่วิ่งเพลินๆ ก็ได้ยินเสียงอะไรก็ไม่รู้ ตอนแรกเธอไม่ได้ตั้งใจฟัง อาจเป็นเพราะว่ากำลังคิดเรื่องอื่นอยู่ เธอจึงได้ยินคล้ายๆ เสียง สระ -า เมื่อใจเธอเริ่มฟัง ก็ได้ยินเป็นคำว่า "ป้า" ฮึ่ม!...หนอย...ใครมาเรียกเราว่าป้า??

เธอหันกลับไปดู ก็เห็น "เจ้ากา" สีดำ ตัวใหญ่ อ๋อ...เธอนั่นเองหรือ ที่ร้องว่า "ป้า" จากความหงุดหงิดในใจ เปลี่ยนเป็นความตลก และ ขำออกมา

กาอะไร....
ไม่ร้องว่า...กา
ดันร้องว่า....ป้า

พิมพ์นารา คิดในใจ
เออ...หูเรานี่ก็แปลกนะ พอฟังแล้วไปแปล ก็รู้สึกอย่างหนึ่ง
พอตาเห็น เข้าใจความหมายแล้ว ก็รู้สึกอีกอย่างหนึ่ง 

เธอเร่งสปีดการวิ่งให้เร็วขึ้น ฝ่าลมหนาว ประมาณ 30 นาที จนรู้สึกเหนื่อย ก็หยุดพัก หลังจากนั้นก็ขึ้นรถไฟฟ้ากลับบ้าน

วันพฤหัสบดีที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2561

5 สิ่งที่เด็กสมัยใหม่อาจจะไม่ได้เห็นอีกต่อไป

ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่เข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ทั้งคอมพิวเตอร์ มือถือ การสื่อสารที่ย่อโลกให้อยู่ในกำมือคุณ ทำให้โลกเปลี่ยนไป สิ่งของต่างๆ บางอย่าง ก็เป็นอันหมดยุค หมดสมัย ที่จะเชิดหน้าชูตาอีกต่อไป

มีอะไรบ้างนะ ที่เด็กสมัยใหม่ จะไม่ได้เห็นด้วยตา จะไม่เคยได้สัมผัส และจะไม่เคยรู้จัก และอาจจะต้องไปอ่านเอาในหนังสือที่เป็นประวัติศาสตร์ต่อไปในอนาคต

1.กล้องถ่ายรูปแบบใช้ฟิล์ม
สมัย 20-30 ปีก่อน บ้านไหนที่มีกล้องถ่ายรูปแบบใช้ฟิล์ม ถือว่าเจ๋งมาก พ่อแม่จะสอนเด็กให้ดึงฟิล์มออกมา ใส่ให้ลงล็อกก่อนที่จะปิดกล้องให้เรียบร้อย ถ่ายแล้วซ่อมไม่ได้ เสียแล้วเสียเลย (เสียตังค์ค่าล้างด้วย) ลบไม่ได้เหมือนกล้องสมัยใหม่ ถือว่าคลาสสิกไม่เบา 


2.รถเกียร์กระปุก
รถเก๋ง ที่ออกมารุ่นใหม่ๆ เดี๋ยวนี้ผลิตแต่รถเกียร์ออโต้ทั้งนั้น ไม่ค่อยมีใครออกรถเกียร์ธรรมดากันแล้ว แต่ว่ารถกระบะบางรุ่นก็ยังมีเกียร์กระปุกให้ได้เห็นอยู่บ้าง เด็กรุ่นใหม่ อาจจะไม่รู้วิธีขับรถเกียร์ธรรมดากันอีกต่อไป ไม่รู้ว่ารถบางคันมี 5 เกียร์

3.โทรศัพท์สาธารณะ
เดี๋ยวนี้คนเรามีโทรศัพท์มือถือกันเกือบแทบทุกบ้าน แม้แต่ในต่างจังหวัด เพราะราคาโทรศัพท์มือถือถูกลงมาก หาซื้อง่าย โทรศัพท์สาธารณะก็กลายเป็นที่ติดป้ายประกาศ ให้ฝุ่นเกาะกันดีๆ นี่เอง และแทบจะไม่ค่อยได้เห็นอีกแล้วตามถนนหนทาง เด็กเลยอดที่จะสนุกกับการเตรียมเหรียญบาท เหรียญห้า ที่จะหยอดให้ลงช่อง ฟังสัญญาณ และอดได้รู้ความรู้สึกเจ็บใจ เมื่อเครื่องมันกินเหรียญเราไปหน้าตาเฉย

4.เพจเจอร์
ใครอยู่ในช่วงที่เพจเจอร์กำลังเป็นที่นิยม คงเคยจะได้รับความทรงจำที่อายๆ ในการฝากส่งข้อความหวานๆ ถึงแฟน ผ่านพนักงานที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน คิดแล้วก็ขำ ทำไปได้...

5.เครื่องพิมพ์ดีด
เด็กจะรู้ไหมว่า สมัยก่อนยังไม่มีคอมพิวเตอร์แบบนี้ เราจะทำงานส่งครู หรือทำงานส่งเจ้านาย ต้องพิมพ์ดีดส่ง แล้วเวลาพิมพ์ผิด ก็ยังต้องใช้กระดาษลบคำผิด ที่ยุ่งยากเอาการ แก้ไขลำบาก ใส่กระดาษให้ตรงก็ยากอีก ปรับแล้วปรับอีก สมัยนี้มีคอมพิวเตอร์แล้วสบาย เขียนผิดแล้วลบกี่ทีก็สบาย  








วันพุธที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2561

ไข้เลือดออกกำลังระบาด?

2 วันนี้ มีเจ้าหน้าที่จากอนามัย มาเดินตรวจตามบ้าน ว่ามีแหล่งน้ำขัง ที่จะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายหรือไม่ เพราะเจ้าหน้าที่บอกว่า ช่วงนี้ไข้เลือดออกระบาดหนัก ไม่เฉพาะเขตดินแดง แต่ว่าทุกเขตในกรุงเทพฯ ได้รับแจกโบว์ชัวร์ แผ่นพับเรื่องไข้ซิก้าด้วย เพราะว่าเกิดจากยุงลายเหมือนกัน


วันนี้มาหลายคนเลย เกือบ 10 คนได้ เดินเข้ามาตรวจในห้องน้ำอย่างใกล้ชิด นานๆ เห็นเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่อย่างขยันขันแข็ง ก็น่าชื่นชมนะคะ 

ฝนก็เริ่มกลับมาตกอีกครั้ง ยังไงดูแลเรื่องน้ำขัง น้ำนิ่ง ระวังยุงมาไข้กันด้วยค่ะ ทุกบ้านช่วยกันระวังจะดีที่สุด อย่าให้บ้านเราเป็นต้นเหตุให้คนอื่นเป็นไข้เลือดออกเลย

วันพุธที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2561

Post-Vacation blues

ภาวะซึมเศร้า หลังวันหยุดยาว














ตอนนี้ใครกำลังเป็นอยู่บ้าง ยกมือขึ้นได้ค่ะ..
พอแล้วค่ะ เก็บมือลง มองไปที่คนข้างๆ ถ้ามีอาการเหมือนกัน ก็ชวนกันมาอ่านบทความนี้กันค่ะ

หลังจากที่เราได้ไปเที่ยวในวันหยุดยาวปีใหม่กันแล้ว บางคนหยุด 1 อาทิตย์ บางคนสามารถลาได้ยาวนานถึง 2 อาทิตย์ เที่ยวอย่างสนุกสุดเหวี่ยงกันแล้ว ก็ถึงเวลาต้องกลับมาสู่โลกแห่งความจริง คือ ทำงาน ทำงาน และ ทำงาน บางคนอาจจะเกิดอาการซึมๆ เบื่อๆ เซ็งๆ ที่ต้องกลับมาสู่วงเวียนแห่งการทำงานที่หนักและเคร่งเครียด  ที่จริงอาการนี้สามารถหายไปได้เองภายในไม่กี่วัน แต่บางคนก็อาจจะใช้ระยะเวลายาวนานเป็นอาทิตย์  


ปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะนี้ขึ้นกับอะไรได้บ้าง?

1.ความสุขในช่วงที่เที่ยว 

ถ้าช่วงที่เที่ยว มีความรู้สึกว่ามีความสุข ความสบาย และชอบมากๆ จะเกิดภาวะซึมเศร้ามากกว่าคนทั่วไป  

2.ระยะเวลาที่เที่ยว
ยิ่งเที่ยวหรือหยุดยาวเท่าไร ก็มีโอกาสเกิดภาวะนี้ได้มากขึ้นเท่านั้น




มีวิธีช่วยอย่างไร

1.เปิดดูรูป
รูปถ่ายเหมือนเป็นสิ่งเตือนความจำ ทำให้เราได้คิดถึงตอนนั้นๆ จนอาจจะยิ้มกับตัวเองขึ้นมาได้บ้าง

2.ดูของที่ระลึกที่ซื้อมา
การนำของที่ระลึกมาดู จะช่วยทำให้นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ดี ทำให้คลายความเศร้าลงได้

3.หาที่ระบาย
เล่าให้เพื่อนที่ทำงาน เพื่อนเก่า หรือคนในครอบครัวฟัง เกี่ยวกับความประทับใจที่เกิดขึ้น จะช่วยเยียวยาได้บ้าง

4.จัดโต๊ะทำงานใหม่
นอกจากเป็นการเคลียร์สิ่งต่างๆ บนโต๊ะทำงานให้เข้าที่เข้าทาง เพื่อสะดวกต่อการทำงานแล้ว ยังช่วยทำให้จิตใจสบาย ไม่คิดมาก


5.วางแผนเที่ยวครั้งต่อไป
บางคนอาจจะอ้าปากร้อง ว๊าย...เอาแบบนั้นเลยหรอ?? บางทีการวางแผนการเที่ยวในรอบต่อไป อาจจะทำให้จิตใจกระชุ่มกระชวย มีกำลังใจในการทำงานมากยิ่งขึ้น เป็นการแก้ไขแบบตาต่อตา ฟันต่อฟันกันทีเดียวค่ะ


วันจันทร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2561

สวัสดีปีใหม่ 2561

ผ่านไปแล้ว สำหรับปี 2560 
เริ่มต้นปี 2561 ด้วยความมีสตินะคะ

ปกติ ฝรั่งเค้าจะมีธรรมเนียมที่เรียกว่า New Year's Resolutions ในช่วงวันแรกๆ ของปีใหม่ เหมือนเป็นการตั้งปณิธาณ หรือการตั้งใจทำอะไรดีๆ ที่อยากจะทำ เพื่อเป็นเป้าหมายสำหรับปีนั้น เพื่อปรับปรุงพฤติกรรม
หรือแนวการดำเนินชีวิตให้ดีขึ้น

โดยเค้าจะทำเป็นข้อๆ อาจจะเขียนไว้ในไดอารี่ หรือจะทำใส่กระดาษและแปะไว้ในห้องนอน เพื่อจะได้เตือนความจำ ได้เห็นทุกวัน เป็นการย้ำๆ ลงในสมองจะได้ลงมือปฏิบัติ แล้วปลายปีมาตรวจเช็คว่าสิ่งที่เราตั้งใจไว้ สำเร็จหรือเปล่า

เช่น
-ตั้งใจว่าปีนี้จะลดน้ำหนักให้ได้ 5 กก.
-ตั้งใจว่าปีนี้จะต้องเลิกสูบบุหรี่ให้ได้ใน 6 เดือนแรก
-ตั้งใจว่าปีนี้จะออกกำลังกายทุกวันๆละ 30 นาที
-ตั้งใจว่าปีนี้จะดูทีวีให้น้อยลง


สำหรับของคนไทยเรา ครูบาอาจารย์ทางธรรม ได้สอนไว้ว่าในปีใหม่ เราควรจะตั้งสัจจะว่าจะทำอะไรบ้าง แล้วพยายามทำให้ได้ตามนั้น จะเป็นการเพิ่มสัจจะบารมี ทำให้จิตใจเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น

เช่น
-ตั้งใจว่าปีนี้จะสวดมนต์ก่อนนอนให้ได้ทุกคืน
-ตั้งใจว่าปีนี้จะไม่ดื่มเหล้าตลอดปี
-ตั้งใจว่าปีนี้จะพยายามถือศีล 5 ทุกวัน

คุณล่ะ ได้เริ่มลองตั้งใจทำอะไรดีๆ หรือยัง
ถ้ายัง...มาเริ่มต้นกันเลยค่ะ
หาสมุด...กระดาษ...ปากกา
แล้วลงมือกันเลยค่ะ