วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2563

เทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง

การไหว้บ๊ะจ่าง เป็นประเพณีที่คนจีนสืบทอดมาตั้งแต่โบราณแล้ว เป็นสิ่งที่ต้องทำทุกปี ๆ ละ 1 ครั้ง ในวันที่ 5 เดือน 5 ตามปฏิทินจีน ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 25 มิถุนายน 2563 คนไทยเชื้อสายจีนในปัจจุบัน ยังคงมีถือประเพณีนี้อยู่ โดยบางครอบครัวก็ทำบ๊ะจ่างเอง บางครอบครัวก็หาซื้อบ๊ะจ่างมาไหว้ 

ผู้ที่ทำบ๊ะจ่างมักจะเริ่มเตรียมหาซื้อสิ่งของไว้ ตั้งแต่ก่อนไหว้ 2 วัน ได้แก่ หมู กุนเชียง เห็ด เม็ดแปะก๊วย ไข่แดง กุ้งแห้ง ข้าวเหนียว หัวไช้โป้ว กระเทียม ถั่วลิสง และเริ่มทำบ๊ะจ่างก่อนไหว้ 1 วัน ซึ่งก็คือวันนี้ 24 มิถุนายน 2563 


ที่บ้านของเราเองก็มีคุณแม่ที่ทำบ๊ะจ่างทุกปี ตอนแรกคิดว่าปีนี้จะไม่ทำ จะไปหาซื้อมาไหว้เพราะสะดวกกว่า แต่เมื่อเห็นบ๊ะจ่างจากร้านชื่อดังที่ทำขาย ก็ห่อเหี่ยวใจ ทั้งแพงและเครื่องน้อย ไม่ถูกใจ เธอจึงลงมือทำอีกครั้งหนึ่ง

ที่บ้านเน้นทำกินเอง ราคาไม่เกี่ยง ดังนั้นเครื่องเคราก็จะเยอะและอัดแน่นอย่างที่เห็น โดยมีขั้นตอนที่ดูไม่ยากและเหนื่อยน่าดูดังนี้

1. นำข้าวเหนียวที่แช่ค้างคืนไว้แล้วไปผัดกับกระเทียม พริกไทย ผงพะโล้ หัวไช้โป้ว ถั่วลิสง
2. นำข้าวที่ผัดเสร็จแล้วมาใส่เครื่อง เช่น ไข่แดง หมู เม็ดแป๊ะก๊วย กุนเชียง
3. ห่อบ๊ะจ่างเป็นรูปทรงที่สวยงาม
4. นำไปต้มให้เดือด เพื่อให้ข้าวเหนียวสุก
5. นำมานึ่งต่ออีกครั้ง เพื่อให้ข้าวเหนียวนุ่ม

เมื่อทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็จะได้บ๊ะจ่างที่หอม นุ่ม และอร่อยค่ะ เครื่องแน่น สะใจ ใช่ไหมล่ะ

ปล. ถ้าทำเอง อย่ากินเพลิน เก็บไว้ไหว้พรุ่งนี้ก่อนล่ะ

วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2563

Little C By Cakewalk ขนมปังไส้ครีมนมสดฮอกไกโด อร่อยฟิน ครีมละลายในปาก

ถ้าคุณเห็นมีคนต่อแถวซื้อขนมปังในห้างสรรพสินค้า ให้ลองมองดูว่าใช่ร้าน  Little C by Cakewalk หรือเปล่า ถ้าใช่ก็ต้องลองแล้วค่ะ 

ขนมปังร้านนี้ ถ้าดูเผินๆ เหมือนขนมปังทั่วไปที่โรยไอซิ่งสีขาวข้างบน แต่ภายในบรรจุด้วยครีมนมสดฮอกไกโดสีขาว ที่อร่อยนุ่มลิ้น รสชาติดีมาก ไม่หวานจนเลี่ยน มีกลิ่นนมนิดๆ ดูดครีมเข้าปากแบบฟินๆ ได้รัวๆ ไม่ต้องเคี้ยว เพราะเนื้อละเอียด ละมุน ไส้ทะลักอีกต่างหาก  ตัวขนมปังมีขนาดเล็กกว่าฝ่ามือเล็กน้อย เนื้อขนมปังนุ่ม ไม่ฟูเกินไป อ้าปากพอดีคำ เมื่อกัดลงไปเจอกับไอซิ่งและครีมก็เข้ากันได้ดี

ชิ้นละ 25 บาท โปรโมชัน ซื้อ 4 ชิ้น แถม 1 ชิ้น นั่นก็คือตกชิ้นละแค่ 20 บาท ราคาน่าคบหา ส่วนถ้าอยากซื้อไปฝากผู้ใหญ่ ซื้อเป็นของขวัญ หรือเยี่ยมผู้ป่วย ก็สามารถซื้อแบบใส่กล่อง 6 ชิ้น ราคา 150 บาท โปรโมชั่น ซื้อ 10กล่อง แถม 1 กล่อง


เนื่องจากผลิตจากครีมนมสด ไม่ได้ใส่สารกันบูด จึงทำให้ขนมปังชนิดนี้ ไม่สามารถเก็บไว้ได้นาน คือเมื่อถือถุงออกจากห้างสรรพสินค้าไปแล้ว ควรรีบนำกลับไปรับประทานเลย หรือว่ารีบนำเข้าตู้เย็น จะสามารถอยู่ได้อีก 4 วัน แต่ว่าถ้ากลับบ้านไปแล้ว วางไว้บนโต๊ะในบ้าน ที่ไม่ได้เปิดเครื่องปรับอากาศ ไม่กี่ชั่วโมงก็อาจจะบูดเสียได้

เคยได้ชิมขนมปังยี่ห้อนี้นานแล้ว เห็นเค้าต่อแถวซื้อกันยาวมาก เลยลองกินดู แล้วก็ติดใจจริงๆ คือติดใจที่ครีม เพราะเป็นคนไม่ชอบทานหวาน ขนมปังยี่ห้อนี้ตอบโจทย์มาก หลังจากกนั้นก็ตามหา แต่ไม่เจอ เพราะว่าเค้าเป็นร้านที่ตระเวนออกบูทตามห้างสรรพสินค้า สลับกันไปเรื่อยๆ เพิ่งมารู้ว่า เค้ามีสาขาประจำอยู่ที่ ห้างเซ็นทรัลพระรามเก้า สำหรับใครที่ไม่ได้อยู่ใกล้เซ็นทรัลพระรามเก้า สามารถติดตามการออกบูทของทางร้าน ได้ที่เฟซบุ๊ก www.facebook.com/LittleCBangkok

นอกจากขนมปังแล้ว ที่ร้านยังมีขายครัวซอง ชิ้นใหญ่ หน้าตาน่ารับประทานอย่างยิ่ง คือ ครัวซองครีมนมสด, ครัวซองแฮมชีส, ทริปเปิลช็อกโกแลตครัวซอง, ครัวซองคาราเมลมัคคิอาโต้, และครัวซองอัลมอนด์



ร้าน Little C by Cakewalk สาขาประจำ
*เซ็นทรัลพระรามเก้า อยู่ชั้น B ในศูนย์อาหาร ใกล้กับแคชเชียร์เก็บเงินของท็อปซุปเปอร์มาร์เก็ต  เอ็มควอเทียร์ 
*เอ็มควอเทียร์ อยู่ชั้น G หน้ากูร์เมต์ มาร์เก็ต

ตอนที่ 4 : จมูกและลิ้นของเรา

ร่างกายจ๋า...มาดีกันนะ..คืนดีกันนะ..เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม..เหมือนเดิมแบบที่...สุขภาพดี..สมบูรณ์..แข็งแรง..ไม่ป่วย..
.
.
พิมพ์นารา ป่วยกระเสาะกระแสะมาเป็นเดือนแล้ว ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 ช่วงที่่กรุงเทพฯ ประสบกับปัญหาเรื่องฝุ่นพิษ PM 2.5 (ทันสมัยกับเค้าเหมือนกันนะเธอ)

เธอไอเหมือนมีเสมหะอยู่เสมอ จนเป็นไซนัสอักเสบ บางทีน้ำมูกก็มีเลือดปนออกมาด้วย ไปหาหมอเป็นเดือน จนไซนัสหายเป็นปกติ แต่อาการไอก็ยังไม่หายสักที เธอไอจนเหนื่อย โชคดีที่หมอบอกว่าปอดปกติ ไม่ได้เป็นปอดอักเสบ หรือยังไม่ได้เป็นหอบหืด
.
.
แต่ประสาทรับรสก็ไม่ทำงานเอาซะเลย กินอะไรก็ไม่อร่อย ไม่ค่อยรู้รสชาติ จมูกก็ไม่ได้กลิ่น ลิ้นก็ไม่รู้รส ช่างทรมานเหลือเกินร่างกายนี้ อยากให้หายก็ไม่ยอมหาย
.
.
ปัญหาขี้ประติ๋วแค่เรื่อง "ฝุ่น" ยังทำให้จิตหวั่นไหวขนาดนี้ ต่อไปเราคงต้องเตรียมพร้อมให้มากกว่านี้แล้ว เราไม่รู้เลยว่าอีก 10 หรือ 20 ปี จะป่วยมากขึ้นขนาดไหน" เธอคิด แล้วก็เดินไปกินยาอีก

วันพุธที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ตอนที่ 3 : หูของเรา

วันนี้เป็นวันเสาร์ พิมพ์นาราออกจากบ้านแต่เช้า เพื่อไปออกกำลังกายที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง อากาศเย็นมาก ลมพัดแรงจนเธอขนลุก เธอวิ่งเหยาะๆ เพื่อวอร์มร่างกาย

ขณะที่วิ่งเพลินๆ ก็ได้ยินเสียงอะไรก็ไม่รู้ ตอนแรกเธอไม่ได้ตั้งใจฟัง อาจเป็นเพราะว่ากำลังคิดเรื่องอื่นอยู่ เธอจึงได้ยินคล้ายๆ เสียง สระ -า เมื่อใจเธอเริ่มฟัง ก็ได้ยินเป็นคำว่า "ป้า" ฮึ่ม!...หนอย...ใครมาเรียกเราว่าป้า??

เธอหันกลับไปดู ก็เห็น "เจ้ากา" สีดำ ตัวใหญ่ อ๋อ...เธอนั่นเองหรือ ที่ร้องว่า "ป้า" จากความหงุดหงิดในใจ เปลี่ยนเป็นความตลก และ ขำออกมา

กาอะไร....
ไม่ร้องว่า...กา
ดันร้องว่า....ป้า

พิมพ์นารา คิดในใจ
เออ...หูเรานี่ก็แปลกนะ พอฟังแล้วไปแปล ก็รู้สึกอย่างหนึ่ง
พอตาเห็น เข้าใจความหมายแล้ว ก็รู้สึกอีกอย่างหนึ่ง 

เธอเร่งสปีดการวิ่งให้เร็วขึ้น ฝ่าลมหนาว ประมาณ 30 นาที จนรู้สึกเหนื่อย ก็หยุดพัก หลังจากนั้นก็ขึ้นรถไฟฟ้ากลับบ้าน

วันพฤหัสบดีที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2561

5 สิ่งที่เด็กสมัยใหม่อาจจะไม่ได้เห็นอีกต่อไป

ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่เข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ทั้งคอมพิวเตอร์ มือถือ การสื่อสารที่ย่อโลกให้อยู่ในกำมือคุณ ทำให้โลกเปลี่ยนไป สิ่งของต่างๆ บางอย่าง ก็เป็นอันหมดยุค หมดสมัย ที่จะเชิดหน้าชูตาอีกต่อไป

มีอะไรบ้างนะ ที่เด็กสมัยใหม่ จะไม่ได้เห็นด้วยตา จะไม่เคยได้สัมผัส และจะไม่เคยรู้จัก และอาจจะต้องไปอ่านเอาในหนังสือที่เป็นประวัติศาสตร์ต่อไปในอนาคต

1.กล้องถ่ายรูปแบบใช้ฟิล์ม
สมัย 20-30 ปีก่อน บ้านไหนที่มีกล้องถ่ายรูปแบบใช้ฟิล์ม ถือว่าเจ๋งมาก พ่อแม่จะสอนเด็กให้ดึงฟิล์มออกมา ใส่ให้ลงล็อกก่อนที่จะปิดกล้องให้เรียบร้อย ถ่ายแล้วซ่อมไม่ได้ เสียแล้วเสียเลย (เสียตังค์ค่าล้างด้วย) ลบไม่ได้เหมือนกล้องสมัยใหม่ ถือว่าคลาสสิกไม่เบา 


2.รถเกียร์กระปุก
รถเก๋ง ที่ออกมารุ่นใหม่ๆ เดี๋ยวนี้ผลิตแต่รถเกียร์ออโต้ทั้งนั้น ไม่ค่อยมีใครออกรถเกียร์ธรรมดากันแล้ว แต่ว่ารถกระบะบางรุ่นก็ยังมีเกียร์กระปุกให้ได้เห็นอยู่บ้าง เด็กรุ่นใหม่ อาจจะไม่รู้วิธีขับรถเกียร์ธรรมดากันอีกต่อไป ไม่รู้ว่ารถบางคันมี 5 เกียร์

3.โทรศัพท์สาธารณะ
เดี๋ยวนี้คนเรามีโทรศัพท์มือถือกันเกือบแทบทุกบ้าน แม้แต่ในต่างจังหวัด เพราะราคาโทรศัพท์มือถือถูกลงมาก หาซื้อง่าย โทรศัพท์สาธารณะก็กลายเป็นที่ติดป้ายประกาศ ให้ฝุ่นเกาะกันดีๆ นี่เอง และแทบจะไม่ค่อยได้เห็นอีกแล้วตามถนนหนทาง เด็กเลยอดที่จะสนุกกับการเตรียมเหรียญบาท เหรียญห้า ที่จะหยอดให้ลงช่อง ฟังสัญญาณ และอดได้รู้ความรู้สึกเจ็บใจ เมื่อเครื่องมันกินเหรียญเราไปหน้าตาเฉย

4.เพจเจอร์
ใครอยู่ในช่วงที่เพจเจอร์กำลังเป็นที่นิยม คงเคยจะได้รับความทรงจำที่อายๆ ในการฝากส่งข้อความหวานๆ ถึงแฟน ผ่านพนักงานที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน คิดแล้วก็ขำ ทำไปได้...

5.เครื่องพิมพ์ดีด
เด็กจะรู้ไหมว่า สมัยก่อนยังไม่มีคอมพิวเตอร์แบบนี้ เราจะทำงานส่งครู หรือทำงานส่งเจ้านาย ต้องพิมพ์ดีดส่ง แล้วเวลาพิมพ์ผิด ก็ยังต้องใช้กระดาษลบคำผิด ที่ยุ่งยากเอาการ แก้ไขลำบาก ใส่กระดาษให้ตรงก็ยากอีก ปรับแล้วปรับอีก สมัยนี้มีคอมพิวเตอร์แล้วสบาย เขียนผิดแล้วลบกี่ทีก็สบาย  








วันพุธที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2561

ไข้เลือดออกกำลังระบาด?

2 วันนี้ มีเจ้าหน้าที่จากอนามัย มาเดินตรวจตามบ้าน ว่ามีแหล่งน้ำขัง ที่จะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายหรือไม่ เพราะเจ้าหน้าที่บอกว่า ช่วงนี้ไข้เลือดออกระบาดหนัก ไม่เฉพาะเขตดินแดง แต่ว่าทุกเขตในกรุงเทพฯ ได้รับแจกโบว์ชัวร์ แผ่นพับเรื่องไข้ซิก้าด้วย เพราะว่าเกิดจากยุงลายเหมือนกัน


วันนี้มาหลายคนเลย เกือบ 10 คนได้ เดินเข้ามาตรวจในห้องน้ำอย่างใกล้ชิด นานๆ เห็นเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่อย่างขยันขันแข็ง ก็น่าชื่นชมนะคะ 

ฝนก็เริ่มกลับมาตกอีกครั้ง ยังไงดูแลเรื่องน้ำขัง น้ำนิ่ง ระวังยุงมาไข้กันด้วยค่ะ ทุกบ้านช่วยกันระวังจะดีที่สุด อย่าให้บ้านเราเป็นต้นเหตุให้คนอื่นเป็นไข้เลือดออกเลย

วันพุธที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2561

Post-Vacation blues

ภาวะซึมเศร้า หลังวันหยุดยาว














ตอนนี้ใครกำลังเป็นอยู่บ้าง ยกมือขึ้นได้ค่ะ..
พอแล้วค่ะ เก็บมือลง มองไปที่คนข้างๆ ถ้ามีอาการเหมือนกัน ก็ชวนกันมาอ่านบทความนี้กันค่ะ

หลังจากที่เราได้ไปเที่ยวในวันหยุดยาวปีใหม่กันแล้ว บางคนหยุด 1 อาทิตย์ บางคนสามารถลาได้ยาวนานถึง 2 อาทิตย์ เที่ยวอย่างสนุกสุดเหวี่ยงกันแล้ว ก็ถึงเวลาต้องกลับมาสู่โลกแห่งความจริง คือ ทำงาน ทำงาน และ ทำงาน บางคนอาจจะเกิดอาการซึมๆ เบื่อๆ เซ็งๆ ที่ต้องกลับมาสู่วงเวียนแห่งการทำงานที่หนักและเคร่งเครียด  ที่จริงอาการนี้สามารถหายไปได้เองภายในไม่กี่วัน แต่บางคนก็อาจจะใช้ระยะเวลายาวนานเป็นอาทิตย์  


ปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะนี้ขึ้นกับอะไรได้บ้าง?

1.ความสุขในช่วงที่เที่ยว 

ถ้าช่วงที่เที่ยว มีความรู้สึกว่ามีความสุข ความสบาย และชอบมากๆ จะเกิดภาวะซึมเศร้ามากกว่าคนทั่วไป  

2.ระยะเวลาที่เที่ยว
ยิ่งเที่ยวหรือหยุดยาวเท่าไร ก็มีโอกาสเกิดภาวะนี้ได้มากขึ้นเท่านั้น




มีวิธีช่วยอย่างไร

1.เปิดดูรูป
รูปถ่ายเหมือนเป็นสิ่งเตือนความจำ ทำให้เราได้คิดถึงตอนนั้นๆ จนอาจจะยิ้มกับตัวเองขึ้นมาได้บ้าง

2.ดูของที่ระลึกที่ซื้อมา
การนำของที่ระลึกมาดู จะช่วยทำให้นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ดี ทำให้คลายความเศร้าลงได้

3.หาที่ระบาย
เล่าให้เพื่อนที่ทำงาน เพื่อนเก่า หรือคนในครอบครัวฟัง เกี่ยวกับความประทับใจที่เกิดขึ้น จะช่วยเยียวยาได้บ้าง

4.จัดโต๊ะทำงานใหม่
นอกจากเป็นการเคลียร์สิ่งต่างๆ บนโต๊ะทำงานให้เข้าที่เข้าทาง เพื่อสะดวกต่อการทำงานแล้ว ยังช่วยทำให้จิตใจสบาย ไม่คิดมาก


5.วางแผนเที่ยวครั้งต่อไป
บางคนอาจจะอ้าปากร้อง ว๊าย...เอาแบบนั้นเลยหรอ?? บางทีการวางแผนการเที่ยวในรอบต่อไป อาจจะทำให้จิตใจกระชุ่มกระชวย มีกำลังใจในการทำงานมากยิ่งขึ้น เป็นการแก้ไขแบบตาต่อตา ฟันต่อฟันกันทีเดียวค่ะ